วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555

กิจกรรมที่ 9


การจัดห้องเรียน

ห้องเรียนที่มีบรรยากาศแจ่มใส สะอาด สว่าง กว้างขวางพอเหมาะ มีโต๊ะเก้าอี้ที่เป็นระเบียบเรียบร้อย มีมุมวิชาการส่งเสริมความรู้ มีการตกแต่งห้องให้สดใสทำให้ห้องเรียนมีบรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น ความเห็นอกเห็นใจ และความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกันและกัน ย่อมเป็นแรงจูงใจที่กระตุ้นให้ผู้เรียนรักการเรียน รักการอยู่ร่วมกันในชั้นเรียน และช่วยปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ความประพฤติอันดีงามให้แก่นักเรียน

การจัดโต๊ะเรียนและเก้าอี้ของนักเรียน ควรจัดให้มีขนาดเหมาะสมกับรูปร่างและวัยของนักเรียน   ให้มีช่องว่างระหว่างแถวที่นักเรียนจะลุกนั่งได้สะดวก และทำกิจกรรมได้คล่องตัว
         การจัดโต๊ะครู ควรจัดให้อยู่ในจุดที่เหมาะสม อาจจัดไว้หน้าห้อง ข้างห้อง หรือหลังห้อง
         การจัดป้ายนิเทศ ป้ายนิเทศไว้ที่ฝาผนังของห้องเรียน ส่วนใหญ่จะติดไว้ที่ข้างกระดานดำทั้ง ข้าง
         การจัดสภาพห้องเรียน ต้องจัดให้ มีอากาศถ่ายเทได้ มีแสงสว่างพอเหมาะ ปราศจากสิ่งรบกวน และมีความสะอาด 

กิจกรรมที่ 8


ครูในอุดมคติ



        ครูในอุดมคติของข้าพเจ้าจะต้องมีความเมตตากรุณา รัก หวังดี ศิษย์ทุกคนโดยเท่าเทียมกันมีความยุติธรรม เที่ยงตรง เสียสละ มีจรรยาบรรณ ความเป็นครู กล่าวคือมีจิตวิญญาณความเป็นครู ที่สำคัญต้องมี ความรู้ ความสามารถ ในศาสตร์วิชาที่จะสอนด้วยเข้าใจศิษย์ถึงความแตกต่างของศิษย์แต่ละคน เพราะแต่ละคนมีพื้นฐานที่แตกต่างกันไปครูที่ดีจึงต้องพิจารณานักเรียนแต่ละคนเป็นรายบุคคลไป ใช้เหตุผลในการสอนไม่ใช้อารมณ์ตัวเองเป็นใหญ่ มีความสุภาพอ่อนโยน แต่งตัวสุภาพ หน้าตาแจ่มใส่  นอกจากจะสอนให้นักเรียนรู้ในศาสตร์วิชาที่จะเรียนแล้วยังจะต้องสอนคุณธรรมจริยธรรมให้นักเรียนด้วย เพื่อให้นักเรียนเป็นทั้งคนที่มีความรู้ความสามารถ คุณธรรมจริยธรรมไปพร้อมๆกัน เป็นกำลังที่สำคัญในการพัฒนาบ้านเมืองต่อไป

กิจกรรมที่ 7


             ให้นักศึกษาศึกษาดูโทรทัศน์ครู ให้เลือกเรื่องที่นักศึกษาสนใจมาคนละ 1 เรื่อง  และเขียนลงในบล็อกกิจกรรมของนักเรียน ดังนี้

1. สอนเรื่องอะไร  ผู้สอนชื่อ  ระดับชั้นที่สอน
              เรื่องแผนภูมิกับการพรางตัว   ผู้สอน ผศ.พิมพ์พร อสัมภินพงศ์    ระดับชั้นที่สอนประถมศึกษาปีที่ 6
2. เนื้อหาที่ใช้สอนมีอะไรบ้าง
              เนื้อหาที่ใช้สอนจะเกี่ยวกับเรื่องแผนภูมิรูปภาพ แผนภูมิแท่ง กราฟ และแผนภูมิวงกลม
3. จัดกิจกรรมการสอนด้าน (สติปัญญา=IQ, อารมณ์=EQ, คุณธรรมจริยธรรม=MQ)
              การจัดกิจกรรมการสอนด้านสติปัญญา   ครูได้ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม  นำอุปกรณ์ต่างๆ เช่น  ใบไม้  ก้อนหิน  เหรียญ   และตาราง 100 ช่อง   มาใช้ในการนำเสนอข้อมูลแผนภูมิรูปภาพ แผนภูมิแท่ง กราฟ และแผนภูมิวงกลม ซึ่งเมื่อนักเรียนได้ทำการเก็บรวมรวมข้อมูลก็จะสามารถทำการนำเสนอข้อมูลออกมาในรูปแบบต่าง ๆ ได้ ซึ่งจะช่วยพัฒนาทางด้านสติปัญญาของผู้เรียนให้มีกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบสามารถนำอุปกรณ์ที่มีอยู่รอบตัวมาประยุกต์ใช้ในการเรียนได้                                                                                                                       
              การจัดกิจกรรมการสอนด้านอารมณ์  ครูได้มีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน   ทำให้นักเรียนไม่เบื่อและเกิดความสนใจในเรื่องที่จะเรียน  
              การจัดกิจกรรมการสอนด้านคุณธรรมจริยธรรม   ครูได้มอบหมายงานให้นักเรียนทำและปลูกฝังความรับผิดชอบในการทำงานให้กับนักเรียน 
4. บรรยากาศการจัดห้องเรียน เป็นอย่างไร
             บรรยากาศในการจัดห้องเรียนมีการจัดห้องเรียนอย่างสะอาด   มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย     โต๊ะ เก้าอี้  มีการจัดอย่างเป็นระเบียบ   ตามฝาผนังห้องเรียนมีการจัดแต่งโดยการติดข้อความหรือข้อมูลต่างๆที่ให้ความรู้แก่นักเรียน  และ เกิดความงามดูแล้วสบายตา 

กิจกรรมที่ 6

เศรษฐกิจพอเพียง

           จุดหมายในปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยและ ทรงพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้นำไปเผยแพร่ เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติของทุกฝ่ายและประชาชนโดยทั่วไป พบว่า มีอยู่ 2 ส่วนด้วยกัน ในส่วนที่หนึ่ง เพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์ และเพื่อให้พร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวางทั้งด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี สำหรับในส่วนที่สอง คือ เพื่อให้สมดุล (ทั้งด้านวัตถุสังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม)
กรอบแนวคิด

เป็นปรัชญาที่ชี้แนะแนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตนในทางที่ควรจะเป็น โดยมีพื้นฐานมาจากวิถีชีวิตดั้งเดิมของสังคมไทย สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ตลอดเวลา และเป็นการมองโลกเชิงระบบที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มุ่งเน้นการรอดพ้นจากภัยและวิกฤต เพื่อความมั่นคงและความยั่งยืนของการพัฒนา


คุณลักษณะ

เศรษฐกิจพอเพียง สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติตนได้ในทุกระดับ โดยเน้นการปฏิบัติตนบนทางสายกลาง และการพัฒนาอย่างเป็นขั้นตอน

ความพอเพียงที่ประกอบกันขึ้นตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จะต้องประกอบด้วย 3คุณลักษณะ พร้อมๆ กัน ดังนี้

(1) ความพอประมาณ หมายถึง ความเหมาะสมของการดำเนินงาน ทั้งในแง่ของขนาดที่ไม่เล็กเกินไปหรือไม่ใหญ่จนเกินตัว แต่เป็นไปตามอัตภาพและสภาพแวดล้อม และในแง่ของจังหวะเวลาที่ไม่เร็วเกินไปหรือไม่ช้าจนเกินไป แต่รู้จักทำเป็นขั้นตอนเพื่อให้การดำเนินงานมีความก้าวหน้า โดยที่ไม่ทำให้ตนเองและผู้อื่นเดือดร้อน

(2) ความมีเหตุผล หมายถึง การพิจารณาที่จะดำเนินงานใดๆ ด้วยความถี่ถ้วนรอบคอบ ไม่ย่อท้อ ไร้อคติ คำนึงถึงเหตุและปัจจัยแวดล้อมทั้งหมด เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างถูกต้องดีงาม เกิดประสิทธิผล เกิดประโยชน์และความสุข โดยปราศจากการเบียดเบียนตนเองและผู้อื่น

(3) การมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี หมายถึง การจัดองค์ประกอบของการดำเนินงาน ให้มีสภาพพร้อมรองรับต่อผลกระทบใดๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายในได้เป็นอย่างดี


เงื่อนไข

การตัดสินใจและการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ให้อยู่ในระดับพอเพียงนั้น ต้องอาศัยทั้งความรู้และคุณธรรมเป็นพื้นฐาน กล่าวคือ

เงื่อนไขความรู้ หมายถึง เครื่องอาศัยของการดำเนินงานเพื่อให้เป็นไปอย่างถูกต้อง ประกอบด้วย ความรอบรู้ คือ ความรู้ลึกในงานที่ทำและความรู้กว้างในสภาวะแวดล้อมและสถานการณ์ที่เกี่ยวพันกับงานที่ทำ ความระลึกรู้ (สติ) คือ การยั้งคิดพิจารณาและรู้ทันสภาวการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนที่จะกระทำการใดๆ และความรู้ชัด (ปัญญา) คือ การเห็นและเข้าใจสิ่งต่างๆ ได้อย่างกระจ่างชัด ถูกต้องตามเหตุตามผลและตามจริง

เงื่อนไขคุณธรรม หมายถึง เครื่องอาศัยของการดำเนินงานเพื่อให้เป็นไปอย่างดีงาม ประกอบด้วย ความซื่อสัตย์สุจริต คือ ความประพฤติชอบ มีการพูดและการกระทำซื่อตรงต่อหน้าที่การงาน ต่อตนเอง และต่อผู้อื่นที่เกี่ยวข้อง มีเจตนาบริสุทธิ์ ไม่คดโกง ไม่หลอกลวง และไม่เอารัดเอาเปรียบ ความอดทน มีความเพียร คือ ความบากบั่น ความกล้าแข็ง มีความหนักแน่น ไม่ท้อถอย ทำให้การดำเนินงานรุดหน้าเรื่อยไปจนประสบผลสำเร็จ และความรอบคอบระมัดระวัง คือ การพิจารณาอย่างถี่ถ้วนในทุกแง่ทุกมุมก่อนที่จะดำเนินงาน เพื่อมิให้เกิดความเผอเรอและพลั้งพลาด

กิจกรรม 5 ครูที่ชื่นชอบ


   Uraiwan

  •         ชื่อ: นางอุไรวรรณ ศิวะกุล (สกุลเดิม ทัฬหพงศ์พันธุ์)
  •       
  •         ที่อยู่ปัจจุบัน: เลขที่ 35 อาคารวรรณสรณ์ ถนนพญาไท แขวงถนนพญาไท กทม. 10400
  •         
  •         โทรศัพท์ที่ทำงาน: (02) 306-0850-59
  •          
  •          สถานภาพสมรส: แต่งงาน คู่สมรสชื่อ นายอนุสรณ์ ศิวะกุล [(อดีตผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย
  • ปัจจุบันผู้บริหารบริษัทวรรณสรณ์ และโรงเรียนกวดวิชาวรรณสรณ์ (เคมี อ.อุ๊)]
  •        
  •           มีบุตร-ธิดารวม 2 คน:
    บุตรชาย: นายอกนิษฐ์พล ศิวะกุล
  •                     บุตรสาว: นางสาวอธิปพร ศิวะกุล 


1.ประวัติการศึกษาย่อ ๆ

       ระดับมัธยมศึกษา วุฒิ มศ. 3 เมื่อ พ.ศ. 2515 จากโรงเรียนสตรีระนอง
      
       ระดับอนุปริญญา วุฒิ ป.กศ.สูง (เอกวิทยาศาสตร์) เมื่อ พ.ศ. 2519 จากวิทยาลัยครูภูเก็
      
       ระดับปริญญาตรี วุฒิ กศ.บ. (เกียรตินิยมอันดับ 1) เมื่อ พ.ศ. 2523 จาก มศว. สงขลา
      
       ระดับปริญญาโท วุฒิ กศ.ม. (เคมี) เมื่อ พ.ศ. 2525 จาก มศว. ประสานมิตร

2.ประวัติการทำงาน ย่อๆ
การรับราชการ

      พ.ศ. 2519–2521 รับราชการที่โรงเรียนทับหลีสุริยวงศ์ จ.ระนอง จากนั้นลาออกจากราชการเพื่อศึกษาต่อระดับปริญญาตรีและปริญญาโท
        
          พ.ศ. 2526–2532 รับราชการที่โรงเรียนสตรีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ จ.กรุงเทพฯ
          
        พ.ศ. 2532–2537 รับราชการที่โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย จ.กรุงเทพฯ หลังจากนั้นลาออกจากราชการเพื่อประกอบธุรกิจส่วนตัว
การสอนกวดวิชา
         
        พ.ศ. 2525 เริ่มสอนกวดวิชาในขณะที่ศึกษาอยู่ในระดับปริญญาโท เพื่อเป็นงาน พิเศษในขณะที่กำลังศึกษาอยู่
         
        พ.ศ. 2529–253เริ่มเปิดเป็นโรงเรียนกวดวิชาของตนเองครั้งแรก ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว
          
        พ.ศ. 2532–ปัจจุบัน เปิดเป็นโรงเรียนสอนกวดวิชา โรงเรียนวรรณสรณ์ ซึ่งมีสาขาทั้งสิ้น 20 สาขา ได้แก่
    3.ผลงานของครูที่นักเรียนชอบ

    ผลงาน


    ด้านการสอน
             เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในการสอนวิชาเคมี จนสามารถทำให้โรงเรียนกวดวิชาวรรณสรณ์มีชื่อเสียงโด่งดัง ในนามที่ทุกคนกล่าวขานเรียกกันติดปากว่า "เคมี อ.อุ๊"
    ด้านการเขียน
             ปริญญานิพนธ์เรื่อง "การศึกษาปริมาณของปรอทในไข่ไก่ และการถ่ายทอดปรอทไปยังลูกไก่"
      - เป็นผลงานที่ได้รับเลือกให้ได้รับทุนการวิจัยของคณะวิทยาศาสตร์ มศว.ประสานมิตร
      - ได้รับคัดเลือกให้แสดงผลงานการวิจัยในการจัดนิทรรศการวิชาการ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
              งานเขียนตำรา ประกอบการเรียนการสอนวิชาเคมี ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
      รางวัล และ คำชื่นชมจากสื่อต่างๆ
    โล่และเกียรติบัตร
              กระทรวงศึกษาธิการ  มอบโล่เกียรติคุณให้ไว้เพื่อแสดงว่า  สมาคมผู้บริหารและครูโรงเรียนกวดวิชา  สนับสนุนนิทรรศการมหกรรมวันการศึกษาเอกชน  พ.ศ. 2553  ที่จัดโดยสำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ร่วมกับ สมาคมสภาการศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย  ให้ไว้ ณ วันที่ 10 กุมภาพันธ์  2553         นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ มอบเกียรติบัตรให้แด่ อาจารย์อุไรวรรณ ศิวะกุล เพื่อแสดงว่า เป็นผู้ส่งเสริมและสนับสนุนโครงการ “รินน้ำใจ ให้น้องชาวใต้ เสริมความรู้ สู่มหาวิทยาลัย” ร่วมปฏิบัติภารกิจโดยไปทำการสอนวิชาเคมีที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อพัฒนาศักยภาพทางวิชาการของนักเรียนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ไว้ ณ วันที่ 15 มกราคม 2549
              กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มอบประกาศเกียรติคุณแด่ อาจารย์อนุสรณ์ และอาจารย์อุไรวรรณ ศิวะกุล (เคมี อ.อุ๊) ผู้ให้การสนับสนุนการดำเนินงานสถานสงเคราะห์เด็กพิการทางสมองและปัญญา (บ้านราชาวดี) ให้ไว้ ณ วันที่ 7 กันยายน 2548
     4.นักเรียนประยุกต์สิ่งที่ดีของครูมาใช้ในการพัฒนาตนเอง

             เราสามารถนำแนวการสอน การเป็นแบบอย่างที่ดีของอาจารย์อุไรวรรณ ศิวะกุล  ประยุกต์ใช้เพื่อเป็นแนวทางในการสอนในอนาคตได้ เพราะอาจารย์อุไรวรรณ ศิวะกุล เป็นอาจารย์ที่นักเรียนรักและเารพ รวมทั้งมีกลยทธ์ในการสอนทำให้นักเรียนมีความสขกับการเรียนและอาจารย์อุไรวรรณได้บอกกุญแจแห่งความสำเร็จนี้ว่า มี ประการหลักคือ
            
            1. ผู้ที่จะเปิดโรงเรียนกวดวิชา ต้องมีความมุ่งมั่น คุณภาพการสอนเป็นอันดับ เพราะผู้เรียนจะเป็นผู้ เลือก
            
            2. ต้องคิดถึงผู้เรียนเป็นหลัก บริการที่ให้ต้องพร้อมและคำเสนอแนะของนักเรียน ผู้ปกครองนำพัฒนาและปรับปรุง
            
            3. ต้องมีทีมงานที่ดี และต้องผูกพันกับทีมงานให้ได้มรู้ทั้งด้านวิชาการ และมีคุณธรรม จริยธรรม มีความเป็นครูดีเด่น